google-site-verification: google49d119a0868d58ef.html
top of page
รูปภาพนักเขียนsiriwanpokrung

ยาคุมฉุกเฉิน

🚫ยาคุมฉุกเฉิน🚫 ใช้ เมื่อมีข้อบ่งชี้ ดังนี้ 1.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน 2.อุปกรณ์ป้องกันชำรุด เช่น ถุงยางอนามัยแตก ห่วงหลุด 3.ถูกข่มขืน 🛑แบ่งเป็นหลายชนิด ดังนี้ 1.ฮอร์โมน โปรเจสติน ตัวเดียว ขนาดสูง เช่น Postinor Madonna Maple forte เป็น levonorgrestel ขนาดสูง750 mg หรือสูงกว่า 2.ฮอร์โมนรวม (Yuzpe Regimen)เช่น Ovral ไม่ค่อยใช้กันแล้ว 3.Selective progesterone receptor modulator เช่น uripristal ยังไม่มีใช้ ✅ที่มีให้ใช้กันในท้องตลาดก็พวก postinor madonna 💊วิธีกินยาคุมฉุกเฉินที่ถูกต้อง💊 เมื่อซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะได้ยาขนาดเม็ดละ 0.75 มิลลิกรัม 2 เม็ด ซึ่งต้องรีบกินให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน เพื่อให้ยามีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้สามารถเลือกกินได้ 2 แบบ ซึ่งให้ผลลัพธ์ไม่แตกต่างกัน ดังนี้ ✅1.กินครั้งเดียวพร้อมกันทั้ง 2 เม็ด ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ ✅2.กินยาเม็ดแรกทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ และเม็ดที่สองห่างไปอีก 12 ชั่วโมง แต่การกินยาครั้งละเม็ดห่างกันนานถึง 12 ชั่วโมงอาจทำให้หลายคนลืมกินยาเม็ดที่สอง หรือเข้าใจผิดว่ากินยาเพียงเม็ดเดียวก็เพียงพอแล้ว ทำให้การคุมกำเนิดไม่ได้ผล 📍หากไม่สามารถกินยาได้ทันที ก็สามารถกินหลังจากนั้น แต่ไม่ควรเกิน 3 วันหรือ 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ▫️ควรต้องกินยาซ้ำ หากอาเจียนหลังกินยา 2 ชั่วโมง ▫️หากมีเพศสัมพันธ์ระหว่างที่กินยาคุมฉุกเฉินแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องกินยาซ้ำ เนื่องจากยาจะไม่ส่งผลใดๆ เพิ่ม ▫️ไม่ควรกินยาคุมฉุกเฉินมากกว่า 2 แผง (4 เม็ด) ภายในรอบเดือนเดียว เนื่องจากยาจะส่งผลให้ระบบสืบพันธุ์สร้างฮอร์โมนผิดปกติ ▫️ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเมื่อการมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นแบบฉุกเฉินโดยไม่ได้ป้องกันเท่านั้น เนื่องจากการกินยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ อาจทำให้การคุมกำเนิดไม่ได้ผล และไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนยาคุมปกติ ▫️หากตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์ไม่ควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินเด็ดขาด 😍ประสิทธิภาพของยาจะดีถ้าคุณกินยาทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งการกินยาภายใน 72 ชั่วโมง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75-79% (รวมยาเม็ดที่ 2 แล้ว) แต่ถ้าเริ่มกินยาภายใน 12-24 ชั่วโมงแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ จะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงขึ้นเป็น 85% ดังนั้น คุณควรกินยาเม็ดแรกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ส่วนการกินยาหลังจากเลย 72 ชั่วโมงไปแล้ว หรือตั้งแต่ 72-120 ชั่วโมง (3-5 วัน) ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะลดลงเหลือเพียง 60%) ▫️ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช้ยาทำแท้ง หลายคนยังเข้าใจผิดในเรื่องนี้อยู่ เพราะยาจะต้องเข้าไปในร่างกายก่อนที่จะมีการฝังตัวของไข่ที่เยื่อบุโพรงมดลูก แต่หากไข่ที่ผสมกับอสุจิได้ฝังตัวที่ผนังมดลูกไปแล้ว จะกินยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ได้ช่วยอะไร สรุป "ยาคุมฉุกเฉินมีฤทธิ์ยับยั้งหรือรบกวนการตกไข่ ไม่ใช่ยับยั้งการฝังตัวของตัวอ่อน" จึงไม่มีผลทำให้แท้งหรือทำให้ทารกในครรภ์พิการ ☀️ผลข้างเคียง☀️ 📍คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งมักพบหลังจากรับประทานยาไปไม่นาน 📍ปวดศีรษะหรือปวดท้อง บางกรณีร่างกายอาจต่อต้านยาคุมหรือต้องปรับร่างกายตามฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะหรือปวดท้องได้ 📍ผลกระทบต่อเนื่องอาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ ▫️โดยทั่วไปแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ ประจำเดือนจะเริ่มมาและในรอบเดือนถัดไปประจำเดือนจะมาในช่วงเวลาเดิม (ในบางรายอาจมาช้าหรือเร็วกว่าเดิม) หากประจำเดือนไม่มาให้สงสัยไว้ก่อนว่าตั้งครรภ์ แล้วควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอีกที ▫️หลังจากกินยาคุมฉุกเฉิน 3-5 วัน อาจพบว่ามีเลือดออก ได้ เพราะส่วนใหญ่อาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินก็ และจะหายไปเองใน 2-3 วัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ▫️ท้องนอกมดลูก การกินยาคุมฉุกเฉินในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด แต่การใช้ยานี้ติดต่อกันนาน ๆ นอกจากจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่ด้อยกว่ายาเม็ดคุมกำเนิดแบบปกติแล้ว ยังอาจทำให้เกิดความผิดปกติที่รังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ถึง 2% ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยานี้เกิน 2 กล่องต่อเดือน ▫️ผลการศึกษาพบว่ายาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจทำให้ขาดแคลเซียม ส่งผลให้เกิดภาวะกระดูกพรุนในอนาคต ❌ยาเม็ดคุมกำเนินฉุกเฉินยังไม่สามารถรับประกันการท้องได้ 100% และไม่สามารถป้องกันโรคจากเพศสัมพันธ์ หากต้องการป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ควรใช้วิธีสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย❌ 💁🏻‍♀️ทางเลือกอีกวิธีหนึ่งคือ ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทอง (Copper IUDs) เพื่อคุมกำเนิดฉุกเฉินอีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างกับยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินทั่วไปที่จะเป็นการใช้ฮอร์โมนเพื่อเข้าไปชะลอกระบวนการตกไข่ ✍🏻ส่วนห่วงหุ้มทองแดงนั้นจะมีสารที่เข้าไปทำลายไข่และเชื้ออสุจิไม่ให้เกิดการปฏิสนธิกันได้ โดยสามารถใส่ห่วงอนามัยได้ภายใน 120 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ✍🏻โอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครร์จะอยู่ที่ 0.09 - 0.10% เท่านั้น ✍🏻ซึ่งวิธีนี้สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ดีกว่าวิธีการคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบอื่น ถ้าไม่มีการถอดห่วงออกก็จะเป็นการคุมกำเนิดต่อไปได้อีกตามอายุการใช้งาน...

ดู 15,438 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comentarios


bottom of page