google-site-verification: google49d119a0868d58ef.html
top of page
รูปภาพนักเขียนsiriwanpokrung

ยาคุมกำเนิดชนิดฉีด

💁🏻‍♀️ยาคุมกำเนิด แบบฉีด💁🏻‍♀️ DMPA Depot Medroxyprogesterone Acetate เป็นแบบฉีด ทุกๆ 3 เดือนแพทย์จะนัดทุก 12 สัปดาห์ ✅แบบนี้ ใช้ ฮอร์โมน Progesterone ตัวเดียวฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ ✅หลังฉีดห้ามคลึงเพราะทำให้เกล็ดเล็กๆของยาแตกออกมีผลต่อ ระดับยาในกระแสเลือด

✅2/1000 คนที่ฉีดยาคุมแบบนี้อาจท้องได้ในช่วงระยะเวลาปีแรกที่ฉีด ✅ยาคุมชนิดนี้ไม่ได้ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นะคะ เพราะฉะนั้นต้องใส่ถุงยางอนามัย 🎯การออกฤทธิ์ของยาฉีดคุมกำเนิด ฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) จะเป็นตัวยับยั้งการตกไข่ ทำให้ไม่มีไข่มารอปฏิสนธิ นอกจากนั้นยังทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางตัวไม่เหมาะสมแก่การฝังตัวของไข่ และทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเหนียวข้น ส่งผลให้ตัวอสุจิไม่สามารถว่ายผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ (ผ่านเข้าไปได้ยาก) จึงสามารถช่วยคุมกำเนิดได้ 👌เวลาที่ควรเริ่มฉีด CDC(Centers of Disease Control USA) แนะนำว่า ฉีดช่วงไหนก็ได้ที่แน่ใจว่าไม่ตั้งครรภ์ โดย 1. ถ้าฉีดภายใน 7 วัน ของการมีประจำเดือนวันแรก ไม่ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย 2.ถ้าฉีดหลังประจำเดือนวันแรกมากกว่า 7 วันต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นไปอีก 7 วัน โดย CDC สรุปว่าแพทย์สามารถให้ DMPA ในการคุมกำเนิดได้ ถ้าพิจารณาว่า ข้อดีมีมากกว่า แล้วสามารถมาตรวจว่าตั้งครรภ์ไหมตามหลังการฉีดยาคุมได้ในอีก 2-4 สัปดาห์ ถัดมา 3.หลังแท้ง ฉีดได้ทันที 4.หลังคลอดบุตรทันที หรือ 3 วัน หลังคลอดในกรณีต้องการให้นมบุตร(เพื่อให้มีการสร้างน้ำนมก่อน) และถ้าไม่ได้ให้นมบุตรอย่างเดียว ถ้าต้องการฉีดยาคุมหลัง 21 วันหลังคลอด ควรคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยเป็นระยะ เวลา 7 วัน 🌸ถ้าเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิด สามารถฉีดยาคุมได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ ประจำเดือนมารอบใหม่ แต่ให้ ใช้การคุมกำเนิดวิธีเดิมต่อไปอีก 7 วัน หลังฉีดยาคุม 📆มาไม่ตรงวันที่แพทย์นัดทำยังไง? ▫️มาก่อนวันนัดได้ ▫️มาหลังวันนัด Lateได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ❌ถ้าไม่ได้ฉีดยาคุมนานกว่า 15 สัปดาห์ต้อง ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนฉีด และคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นต่ออีก 7 วันเช่นกัน ☀️ผลข้างเคียง 2/3 ของผู้ฉีดยาคุม ประจำเดือนจะกระปริดกระปรอยในช่วงปีแรก 📍เราสามารถลดผลข้างเคียงนี้โดย ทานยาคุมกำเนิด ที่มี estrogen ควบคู่ไปในช่วง 10-20 วันแรก 📍หรีอทานNSAIDS จำพวก Ibruprofen 5-7 วัน หลังจากฉีดไปครบ 1 ปี ประจำเดือนมักจะไม่มา และมีจำนวนผู้ฉีด ที่ไม่มีประจำเดือนมาหลังฉีดครบ 5 ปี ถึง 80 % ❤️แต่ถ้าหยุดฉีดยาคุมไปมากกว่า 12 เดือนแล้วประจำเดือนยังไม่มา ต้องค้นหาสาเหตุ 😍หลังหยุดจะมีบุตรใช้เวลานานไหม ? ขึ้นอยู่แต่ละคน แต่โดยปกติจะเริ่มมีไข่ตกหลังหยุดฉีดยาคุม ประมาณ 6 เดือน (2-11เดือน) 🤩ยาคุมกำเนิด แบบ 3 เดือนทำให้อ้วนจริงไหม ? จากผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ฉีดยาคุมกำเนิดจำนวน 3 ใน 5 รายมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 1-5 กิโลกรัมต่อปี) อีก 1 รายมีน้ำหนักคงที่ ส่วนอีกรายน้ำหนักลดลง แต่จริง ๆ แล้วอาหารก็มีส่วนเยอะนะคะ 💝เราจะแนะนำ DMPA ในคนกลุ่มไหน? 1.ชอบลืมทานยาคุม 2.ชอบแบบป้องกันนานๆแต่ไม่อยากใส่ห่วงหรือฝังยาคุม 3.ไม่สามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มี estrogen ได้ เช่นเป็น migraine 4.สตรีหลังคลอดให้นมบุตร 5.สตรีปวดท้องประจำเดือน ❌ผู้ที่ไม่เหมาะจะฉีดยาคุมกำเนิด • ปกติแล้วจะไม่แนะนำให้ใช้ยาฉีดคุมกำเนิดเป็นทางเลือกแรกของสตรีที่อายุต่ำกว่า 18 ปี หรือสตรีที่มีอายุเกิน 45 ปีขึ้นไป เพราะยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (โปรเจสติน) จะมีผลต่อความหนาแน่นของกระดูก • สงสัยว่าตัวเองตั้งครรภ์หรือกำลังตั้งครรภ์ • มีความดันโลหิตสูงเกิน 160/100 มม.ปรอท • เป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้ • เป็นโรคมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์หรือเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์ เช่น มะเร็งเต้านม หรือเคยเป็นมะเร็งเต้านมเกินกว่า 5 ปี • เป็นโรคหลอดเลือด โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด • เป็นโรคไมเกรนที่มี Aura (อาการที่เกี่ยวกับความรู้สึก เช่น เห็นแสงวาบ เห็นจุดดำ ๆ หรือรู้สึกซ่าบริเวณใบหน้าและมือ) • มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุ • เป็นโรคไต โรคตับอักเสบ ตับแข็ง หรือมะเร็งตับ • เป็นโรคเลือดออกง่ายและหยุดยาก • มีภาวะกระดูกพรุน ไม่ควรใช้ยาฉีดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (โปรเจสติน) • มีภาวะซึมเศร้าอย่างรุนแรง • สตรีที่อ้วนมากเกินไป 🛑ปัจจุบันมียาคุมชนิด ฉีด ทุก 1 เดือนให้ได้ใช้กันเป็นการเลียนแบบ ฮอร์โมนตามธรรมชาติ มี estradiol 5 mg รวมกับ progestin 25 mg ชื่อ Cyclofem พัฒนาเพื่อลดผลข้างเคียง และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดดีมาก ▫️65-85% ของผู้ได้รับการฉีดมีประจำเดือนมาปกติ ▫️ไม่ทำให้อ้วน ▫️ระยะเวลาที่มีบุตรได้หลังหยุดฉีดยาคุม สั้นกว่าแบบ 3 เดือน...

cr CDC Meddoctor

ดู 5,936 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page